ปัจจุบันประเทศไทยจำเป็นต้องเร่งพัฒนาอุตสาหกรรมพลังงานทดแทนที่หลากหลาย เพื่อสร้างความมั่นคงด้านพลังงานให้กับประเทศ ซึ่งน้ำมันเชื้อเพลิงจากพืชสาหร่ายถือเป็นพืชน้ำมันอีกประเภทหนึ่งที่มีศักยภาพสูงของโลกในอนาคต ซึ่งประเทศชั้นนำต่างๆ เช่น สหรัฐอเมริกา ออสเตรเลีย จีน ฯลฯ ต่างให้ความสนใจและทุ่มงบประมาณในการคิดค้นวิจัยพัฒนาสายพันธุ์และเทคโนโลยีการสกัดน้ำมันจากสาหร่ายอย่างจริงจัง
โครงการพัฒนาอุตสาหกรรมเชื้อเพลิงชีวภาพจากสาหร่ายน้ำมันเป็นโครงการนำร่อง ซึ่งกระทรวงพลังงานโดยกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงานร่วมกับบริษัทบางจากฯ บริษัท ผลิตไฟฟ้าราชบุรีโฮลดิ้ง และบริษัท ล็อกซเล่ย์ โดยความร่วมมือของทั้ง 4 ฝ่ายนี้ จะทำให้สามารถดำเนินการโครงการได้แบบครบวงจร ตั้งแต่การลงทุนระบบการเพาะเลี้ยงสาหร่าย การสกัดออกมาเป็นน้ำมันสาหร่าย จนถึงการนำไปผลิตและจำหน่ายเป็นน้ำมันเชื้อเพลิง ในส่วนของกากสาหร่าย สามารถนำไปผลิตเป็นส่วนผสมอาหารสัตว์ที่มีคุณภาพสูง ทั้งนี้การผลิตน้ำมันเชื้อเพลิงชีวภาพจากสาหร่าย ได้กำหนดไว้ในแผนพัฒนาพลังงานทดแทน 15 ปี ซึ่งคณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบแล้วเมื่อวันที่ 28 มกราคม 2552
สำหรับบางจากฯ ในฐานะที่เป็นส่วนหนึ่งในโครงการบุกเบิกอุตสาหกรรมผลิตเชื้อเพลิงจากสาหร่ายในไทยนี้ นอกจากจะเป็นผู้ร่วมลงทุนแล้ว ยังรับซื้อน้ำมันสาหร่ายที่ได้ทั้งหมดไปผลิตเป็นน้ำมันไบโอดีเซลที่โรงงานผลิตไบโอดีเซลของบริษัทฯ และน้ำมันเชื้อเพลิงที่ได้ก็จะจำหน่ายผ่านตลาดบางจากด้วย ทั้งนี้ มีเป้าหมายในการพัฒนาโครงการให้เป็นระดับเชิงพาณิชย์ภายใน 3 ปี
การผลิตน้ำมันเชื้อเพลิงจากสาหร่ายน้ำมัน เป็นนวัตกรรมพลังงานทดแทนที่มีศักยภาพสูงมาก เนื่องจากใช้เวลาในการเพาะเลี้ยงเพียง 2 สัปดาห์ ก็สามารถนำมาผลิตเป็นน้ำมันไบโอดีเซล หรือน้ำมันเครื่องบินได้ จากการที่สาหร่ายเป็นพืชที่เจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว ทำให้ได้ผลผลิต
น้ำมันต่อพื้นที่การเพาะเลี้ยงที่สูงมาก โดยสูงถึง 30 เท่าเมื่อเทียบกับปาล์มน้ำมัน อีกทั้งไม่เป็นการแย่งพืชอาหารของมนุษย์ ประโยชน์จากการเริ่มดำเนินโครงการนี้จะช่วยสร้างความมั่นคงด้านพลังงานให้กับประเทศ ลดผลกระทบจากปัญหาภาวะโลกร้อน และยังถือเป็นก้าวสำคัญในการสร้างอุตสาหกรรมดังกล่าวขึ้นในประเทศไทย เพื่อมุ่งสู่เป้าหมายการเป็นศูนย์กลางพลังงานทดแทนในเอเชียด้วย
โครงการอุตสาหกรรมผลิตเชื้อเพลิงจากสาหร่าย หนึ่งในโครงการ Carbon Neutral Company